You Are So Not Invited to My Bat Mitzvah (2023) บัทมิซวาห์ฉัน อย่าได้ฝันว่าจะชวนเธอ

ดูหนังใหม่ You Are So Not Invited to My Bat Mitzvah (2023) บัทมิซวาห์ฉัน อย่าได้ฝันว่าจะชวนเธอ แค่เห็นชื่อเรื่องก็น่าจะสัมผัสกลิ่นอายได้ชัด ๆ แล้วว่านี่คือหนังเปิดโลกจากมุมมองของชาวยิว กลั่นกรองกลายมาเป็นหนังตลกสไตล์ Coming-of-Age ภายใต้งานสร้างจากบริษัททำหนังของ “อดัม แซนเลอร์” กลายมาเป็น “You Are So Not Invited to My Bat Mitzvah บัตมิตซวาห์ฉัน อย่าได้ฝันว่าจะชวนเธอ” ที่จะมาผู้ชมไปสำรวจเรื่องสุดว้าวุ่นของวัยรุ่นชาวยิว ซึ่งดัดแปลงมาจากนิยายชื่อดัง

You Are So Not Invited to My Bat Mitzvah บัตมิตซวาห์ฉัน อย่าได้ฝันว่าจะชวนเธอ เป็นเรื่องราวของ สเตซี กับ ลิเดีย พวกเธอเป็นเพื่อนซี้ที่เติบโตด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก พร้อมกับวางแผนจัดงานบัตมิตซวาห์แบบยิ่งใหญ่มโหฬาร แต่หนุ่มฮอตและเรื่องดรามาในโรงเรียนมัธยมต้น อาจจะกลายเป็นสิ่งที่ทำลายแผนและฝันทุกอย่างของเธอให้พังทลายลงไปได้

หนังวัยรุ่น Coming-of-Age ถือว่าเป็นแนวหนังที่ไม่มีวันตายจากไปจากวงการหนังเลยก็ว่าได้ เพราะว่าหนังแนวนี้มักจะไหวเอนไปตามกระแสสังคมที่เข้าสมัยอยู่เสมอ ๆ และบัดนี้เราเข้าสู่ห้วงเวลาของวัยรุ่นคนเจน Z ตอนปลายแล้ว นี่จึงกลายเป็นอะไรที่เหมาะเจาะกับการสะท้อนค่านิยมของเด็กในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

“แซมมี โคเอน” นักสร้างหนังดาวรุ่งที่เพิ่งจะแจ้งเกิดมาจากผลงานปีที่แล้วของเธอ อย่าง Crush แน่นอนว่าการมาจับโครงการหนังเรื่องนี้ค่อนข้างแนวถนัดของเธอเลยทีเดียว เพราะประสบการณ์การทำคอนเทนท์วัยรุ่น ๆ ที่สั่งสมาหลายปี เธอได้นำมาละเลงใส่ในหนังเรื่องนี้ได้อย่างเต็มเหนียว แม้ว่าพล็อตเรื่องพื้นฐานจะค่อนข้างธรรมดาทั่วไป และไม่ได้มีอะไรใหม่ แต่ก็สามารถจับมาปั้นเรื่องได้จังหวะที่ดี

เอาจริง ๆ You Are So Not Invited to My Bat Mitzvah ก็คือหนังวัยรุ่นที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในสังคมโรงเรียน ที่พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับการเข้าสังคมและต้องการการเป็นที่ยอมรับของสังคม ท่วงทำนองมันก็คล้ายกับหนังวัยรุ่นยุคก่อน ๆ อย่าง Mean Girls หรือ Clueless อะไรทำนองนั้น แต่ในหนังเรื่องนี้ ได้นำเอาส่วนประกอบเกี่ยวกับศาสนาเข้ามาเสริมแต่งกับช่วงชีวิตการเติบโตของเด็ก ๆ

น่าประหลาดใจที่หนังเรื่องนี้มีกลิ่นอายคล้าย ๆ กับหนัง Coming-of-Age หนึ่งในเรื่องโปรดปีนี้ของเรา อย่าง Are You There God? It’s Me, Margaret. สไตล์หนังค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพียงแต่ว่าเรื่องนี้โฟกัสที่วัฒนธรรมยิวของชัดเจน แต่ในส่วนของการค้นหาตัวเองและร้อยเรียงมิตรภาพในหนัง ถือว่าทำออกมาได้ในลีลาที่ร่วมสมัยดี

แม้ว่าเรื่องนี้จะมีแต่นักแสดงเด็กหน้าใหม่ล้วน ๆ แต่ประมาทพวกเขาไม่ได้เลย ถึงจะเต็มไปด้วยเด็กเส้นเพราะได้ลูกสาวทั้ง 2 คนของ อดัม แซนเลอร์ มาร่วมแสดง โดยเฉพาะ “ซันนี แซนด์เลอร์” ที่ต้องมาแสดงนำ ถึงแม้ว่าจะยังใหม่ในตำแหน่งนี้ แต่ก็ลื่นไหลอย่างน่าประหลาด สมแล้วกับการเป็นทายาทตัวพ่อดาราสายฮาอันดับต้น ๆ ของวงการ และไม่ผิดหวังที่พ่อมักให้เธอได้สั่งสมประสบการณ์มาหลายปี

ขณะที่น้องหนู “ซาแมนธา ลอร์เรน” ก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีไม่แพ้กัน เป็นตัวละครที่ส่งเสริมให้กับตัวละครนำได้เป็นอย่างดี และเคมีของพวกเธอทั้งคู่ก็เป็นมิตรภาพหักเหลี่ยมโหดที่น่าสนใจ โดยที่นักแสดงวัยเยาว์คนอื่น ๆ ก็มอบจังหวะการแสดงที่ดี ไม่ว่าจะเป็น “ดีแลน ฮอฟแมน” หรือ “ดีน สก็อต วาซเควซ” พวกเขาก็ทำการแสดงออกมาได้น่าเอ็นดูและเหมาะเจาะกับบทเช่นกัน

ส่วนพวกรุ่นใหญ่ อดัม แซนด์เลอร์ หรือ เอดินา เมนเซล พวกเขาคือมืออาชีพตัวจริงอยู่แล้ว เป็นส่วนเสริมทางการแสดงที่มาช่วยเชื่อมโยงระหว่างเด็ก ๆ เอาไว้ได้ค่อนข้างกลมกล่อมดี เช่นเดียวกับ “ซาราห์ เชอร์แมน” หรือ “อิโด มอสเซริ” ก็นับว่าเป็นตัวขโมยซีนของเรื่อง ที่มักจะเป็นองค์ประกอบเสริมในหนังของ Happy Mandison อันเป็นไฮไลต์